เมื่อคุณต้องการนักดนตรีสัก 1 วงมาร่วมเล่นในงานแต่งงานของคุณ สิ่งใดบ้างที่ทางวงดนตรีจะต้องทราบเกี่ยวกับข้อมูลในงานแต่งงานงาน 1 และรายละเอียดในแต่ละข้อมูลเป็นอย่างไรกันบ้าง วันนี้เราจะมาแจกแจงกันให้ดู 10 ข้อเพื่อทำให้การร่วมงานกับนักดนตรีและงานของคุณออกมาอย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์แบบที่สุดครับ

1. วัน/เวลา

แน่นอนว่าสิ่งแรกเลยนั้นจะต้องเช็คคิวของทางนักดนตรีว่าวันและเวลานั้นนักดนตรีว่างหรือไม่ มีคิวแล้วหรือยัง ซึ่งจะเป็นสิ่งแรกเลยที่เราคนเดียวกับนักดนตรีเป็นอันดับที่ 1 เพื่อให้วงดนตรีได้เช็คคิวของเพื่อนๆ ภายในวงจนครบทุกคน

2. สถานที่

ในส่วนของสถานที่นั้นถ้าหากว่าเป็นโรงแรมควรแจ้งให้แน่ชัด​ เช่น โรงแรมอะไรสาขาไหนชั้นที่เท่าไหร่และชื่อห้อง ถ้าหากว่ามีแผนที่หรือโลเคชั่นก็ส่งมาให้ด้วย ก็ถือว่าไม่มีอะไรเสียหายครับเพื่อเป็นการให้แน่ใจสำหรับเรื่องของสถานที่​ แต่ถ้าหากเป็นพื้นที่ที่จัดงานขึ้นมาเอง โดยที่ไม่มีชื่อสถานที่หรือโลเคชั่นใน Google Map มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำแผนที่หรือการแชร์โลเคชั่นที่ชัดเจนตรงจุดไม่ผิดเพี้ยนหรือทั้ง 2 อย่างทั้งแผนที่และโลเคชั่นใน Google Map เพื่อให้วงดนตรีหลงไปที่อื่นและจะเป็นการเสียเวลาซึ่งเป็นผลเสียกับทางงานและวงดนตรีเป็นอย่างมากครับ

3. รูปแบบวงดนตรี

วงดนตรีหนึ่งวงจะมีรูปแบบของวงที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ในหลายๆครั้งวงดนตรี 1 วงจะสามารถปรับรูปแบบของวงให้อาจจะมีขนาดเล็กลง เช่นจาก 6 คนเป็น 3 คน หรืออาจจะเพิ่มมากขึ้นจาก 5 คนเป็น 7 คนโดยเพิ่ม เครื่องดนตรีหรือนักร้องเป็นในรูปแบบไหนก็ได้ รูปแบบวงจึงเป็นสิ่งแรกๆที่จะต้องดิวมาพร้อมกับวันเวลาสถานที่เพื่อให้ทางวงดนตรีได้ล็อกคิวงานคนในทีมได้อย่างถูกต้อง ถ้าไม่อย่างนั้นจะเป็นการเสียโอกาส เพื่อนร่วมทีมคนอื่นที่ไม่ได้มาด้วยกันในงานนี้ไปรับงานอื่นได้อีกครับ

4. การมัดจำ

เป็นสิ่งที่เรียกว่าขาดไม่ได้เลยเพราะการมัดจำนั้นเป็นการรับประกันงานของคุณว่าวงดนตรีวงนั้น จะคอนเฟิร์มมาในงานของคุณแน่นอน และในอีกแง่มุมหนึ่งทางวงดนตรีก็จะแน่ใจได้ด้วยว่างานของคุณจะไม่มีการ cancel กลางคันซึ่งจะเกิดผลเสียมากมายกับทั้งทางวงดนตรีและทางงานแต่งงานของคุณ การมัดจำจึงเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่ายครับ

5. สไตล์ชุดนักดนตรี

วงดนตรีที่ดีนั้นจะมีการเอาใจใส่ในทุกแง่มุม รวมไปถึงภาพลักษณ์ที่ดีการแต่งกายย่อมเป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้กับการเล่นดนตรีในงานแต่งงาน เพราะนักดนตรีงานแต่งงานนั้นเข้าใจดีว่างานแต่งงานย่อมมี theme ของงานเช่น โทนสีที่เป็นธีมหลักของงานที่บ่าวสาวได้ นัดไว้กับเพื่อนๆ ซึ่งจะทำให้สีสันของงานอยู่ในโทนเดียวกันถ่ายภาพออกมาสวยงาม และยิ่งนักดนตรีเป็นส่วนประกอบที่สำคัญภายในงานแล้วภาพที่ออกมา ย่อมต้องออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด รวมไปถึงงานอีเว้นท์ต่างๆ เพลงงานเลี้ยงมักจะมีธีมที่น่าสนใจเช่น สไตล์ชุดไทยเดิม สไตล์งานวัด สไตล์คุณหมอ ซึ่งก็จะเป็นการสร้างสีสันให้กับงานได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

6. เพลงในพิธีต่างๆ

ในงานแต่งงานจะมีเพลงในช่วงพิธีโดยหลักๆ คือ เพลงเดินเข้า เพลงตัดเค้ก เพลงโยนดอกไม้ ซึ่งทางวงดนตรีก็จะสามารถเล่นเพลงในช่วงนี้ได้ดีกว่าเปิดเพลง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีเวลาที่กำหนดตายตัวเหมือนการฉาย presentation การเล่นดนตรีสดจึงเป็นทางออกที่ดีที่จะสามารถปรับเปลี่ยนยืดออก หรือตัดจบได้อย่างสวยงามมากกว่าการเปิดเพลงที่ถ้าหากเวลาไม่ลงตัว จึงค่อยเฟดเอาท์ออก ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถทำได้เช่นกันแต่วงดนตรีสามารถปรับเปลี่ยนท่อนของเพลงให้ออกมาได้อย่างเหมาะสมมากกว่า

7. ชื่อและเบอร์โทรของผู้ที่ติดต่อได้วันงาน

หลายๆ ครั้งทางเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะเป็นผู้ติดต่อเข้ามาหาวงดนตรีด้วยตัวเอง เพื่อต้องการวงดนตรีที่ทางเจ้าบ่าวและเจ้าสาวชอบใจที่สุด แต่เมื่อถึงวันงานแล้วทางเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะไม่มีเวลามาดิวงานหรือบรีฟงานในเบื้องต้นเลย เพราะฉะนั้นการที่ส่งต่อให้กับเพื่อนๆ หรือ organizer ของงานจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งครับ ข้อมูลชื่อเบอร์โทรศัพท์หรือ contact ของผู้ที่ติดต่อได้วันงานจึงเป็นสิ่งที่ควรส่งต่อให้กับทางวงดนตรี ไว้ให้วงดนตรีได้ดิวในช่วงวันงานครับ แม้โดยปกติแล้ววงดนตรีที่มีประสบการณ์จะสามารถจัดการข้างหน้างานได้เองแทบทั้งหมด แต่การให้วงดนตรีได้ประสานงานกับทางทีมงานก็เป็นการช่วยให้งานโดยภาพรวมง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

8. Surprise

ในบางครั้งเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวอาจจะมีเซอร์ไพรส์ร้องเพลงให้กับอีกฝ่าย โดยจะต้องมีการเตรียมกับทางนักดนตรีประมาณนึง ซึ่งบางคนอาจซีเรียสถึงขั้นนัดมาซ้อมกับวงดนตรีกันก่อนเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้จะเป็นความลับระหว่างคนเซอร์ไพรส์กับนักดนตรี ในส่วนนี้อาจจะต้องมีการดิวกันอย่างลับๆเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ ซึ่งวงดนตรีงานแต่งงานจะมีประสบการณ์ทางด้านนี้เป็นอย่างดีและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างความสุขภายในงานแต่งงานที่ได้ไปอย่างเต็มที่ครับ

9. ช่วงอายุและสัญชาติของแขกภายในงานรวมทั้งสไตล์เพลง

ทำไม 2 อย่างนี้จึงอยู่ในหัวข้อเดียวกัน เพราะว่าในบางครั้งเจ้าของงานอาจจะต้องการรูปแบบของสไตล์เพลง เป็นในแบบที่ตัวเองต้องการแต่แขกในงานนั้นไม่เหมาะสมกับสไตล์เพลงที่ให้นักดนตรีเตรียมไป ทำให้ข้อมูลในส่วนนี้จึงควรอยู่ด้วยกันเพื่อมีการจัดเตรียมหน้างานให้เหมาะสมเพื่อให้ลงตัวทั้งความต้องการของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวรวมไปถึงแขกภายในงานที่เกิดความประทับใจ ที่ได้มาร่วมงานแต่งงานของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในครั้งนี้อีกด้วย

10. อาหารนักดนตรี

กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใดนักดนตรีงานแต่งงานก็ต้องเดินด้วยท้องฉันนั้น เพราะการเล่นดนตรีต้องการความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อเป็นการสื่อสารทั้งทางสกิลและอารมณ์ให้งานออกมาดีที่สุดสมบูรณ์แบบที่สุด ฉะนั้นจึงควรดิวเรื่องของอาหารว่านักดนตรีควรจะได้รับประทานอาหารก่อนเวลาเล่น เพื่อให้นักดนตรีได้มีแรงในการทำงาน และในบางครั้ง บูธของอาหารเปิดหลังจากที่วงดนตรีเล่นแล้วทำให้นักดนตรียังไม่ได้ทานอะไรแต่กลับต้องทำงานแล้ว ซึ่งบางคนจะต้องเข้ามาสแตนบายที่งานเป็นระยะเวลานานรวมถึงซาวด์เช็คและไม่ได้ทานอะไรมาเลย หรือในบางครั้งบูธของงานเป็นในรูปแบบนับหัวแขกผู้ร่วมงานจึงทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารภายในงานได้ ทำให้อย่างน้อยจึงควรจัดเตรียมอาหารจานเดียวเพื่อให้นักดนตรีได้ทำงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

และนี่คือข้อมูลโดยหลักๆที่เราจะต้องดิลกับนักดนตรีงานแต่งงาน ซึ่งถ้าหากได้อ่านบทความนี้แล้วแม้นักดนตรีไม่ได้แจ้งข้อมูลที่ต้องการทราบเราก็จะสามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่ ราจะต้องดิวนั้นมีอะไรบ้างเพื่อเป็นการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภาพรวมของงานออกมาสมบูรณ์แบบและไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในวันงานที่จะต้องแก้ไขสถานการณ์กันนาทีต่อนาทีครับ