เพลงพิธีการในงานแต่งงานในแต่ละช่วงนั้นจะมี Concept ที่แตกต่างกัน ซึ่งความเหมาะสมทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนอื่นเราควรจะต้องเข้าใจถึงโมเมนต์ในขณะนั้นก่อนว่าฟิวที่จะเกิดขึ้นณตรงจุดนั้นจะมีอารมณ์เป็นเช่นไร และความต้องการทางเทคนิคของงานนั้นต้องการอย่างไรบ้างในแต่ละช่วงพิธีการงานแต่งงาน ถ้าอย่างนั้นก่อนอื่นเราจะมาเล่าถึง Concept ของ เพลงพิธีการในแต่ละช่วงการว่าโมเม้นนั้นจะได้ความรู้สึกเช่นไรและทางเทคนิคนั้นมีอะไรบ้าง

เพลงเดินเข้า

เพลงพิธีการในช่วงนี้นั้นเล่นเพลงที่ใช้เวลาไม่นาน ซึ่งถ้าหากระยะเวลาที่นานที่สุดก็น่าจะใช้เพียงแค่ท่อน verse จนจบท่อน​ Hook​ แรกเสียส่วนใหญ่ และเพลงที่ใช้ควรจะต้องเป็นเพลงที่จังหวะไม่เร็วมาก ยิ่งเทียบเท่าได้กับความเร็วในการเดินเข้าก็จะยิ่งดี แต่คือมีบางกรณีที่น่าสนใจมาก คือเจ้าบ่าวเจ้าสาวเปิดตัวเดินเข้าด้วยเพลงที่จังหวะสนุกสนานและเดินเข้ามาเหมือนเดินอยู่บนแคทวอล์ค ซึ่งถ้าหากว่าเจ้าของงานทั้งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวมีความ create และมีเพื่อนๆ สายปาร์ตี้เฮฮาการเดินเข้าแบบนี้ถือว่าจะเรียกความฮือฮาให้กับแขกภายในงานได้เป็นอย่างดีเลยครับ

การใช้เพลงพิธีการในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ค่อนข้างหลากหลายในด้านความเป็นไปได้ซึ่งถ้าหากเพลงที่เลือกมามีความสนุกสนานก็สามารถจะเปิดตัวอย่าง สนุกสนานตามสไตล์เพลงหรือถ้าเป็นเพลงช้าๆซึ้งๆก็สามารถเปิดตัวเข้ามาแบบสวยงาม หรือถ้าหากเปิดเป็นเพลงสายเฮฮาก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะให้กับแขกไปในงานได้เป็นอย่างดีครับ ซึ่งขอแค่ให้มีความหมาย ไปในทิศทางที่มีความรักที่ดี ก็สามารถเปิดได้แทบทุกรูปแบบครับ

เพลงตัดเค้ก

เพลงพิธีการในช่วงนี้นั้นควรจะให้อารมณ์โรแมนติก ช้าซึ้งๆ กินใจ แล้วจะเป็นช่วงเวลาที่อิริยาบถทุกอย่างจะ เป็นไปอย่างเชื่องช้าสวยงาม เพราะตากล้องจะต้องคอยเก็บภาพทุกมุมมองให้ได้อย่างครบถ้วน ฉะนั้นเพลงพิธีการที่เล่นควรจะมีจังหวะที่ช้าไปจนถึงช้ามาก และเนื่องด้วยหลังจากตัดเค้กแล้วทางเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องนำเค้กไปมอบให้กับ คุณพ่อคุณแม่ของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ทำให้ช่วงเวลาใน moment นี้มีเวลาที่ค่อนข้างนาน​ ควรจะต้องเตรียมสแตนบายเพลงในช่วงนี้ไว้ 2-3 เพลงใน moment เดียวกัน และยิ่งช่วงมอบเค้กให้กับคุณพ่อคุณแม่ถ้าเล่นเป็นเพลงที่มีความหมายเกี่ยวกับความรักที่ยิ่งใหญ่หรือความรักของคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว ยิ่งทำให้ช่วงเวลาใน moment นี้ออกมาได้อย่างสวยงามมากๆ ครับ

แต่หากเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการเพลงในช่วงนี้เป็นเพลงที่อาจจะเป็นเพลงเร็ว แต่ถ้าอยากได้เพลงนี้จริงๆ ก็สามารถทำได้ซึ่งทางวงดนตรีงานแต่งงานนั้นก็จะสามารถนำมาเล่นในรูปแบบช้าๆ ซึ้งๆ เป็นอีกอารมณ์นึงที่เพลงนี้สามารถเป็นไปได้ ยกตัวอย่างเช่นเพลง หยุด หรือ ลูกอม ที่เมื่อนำมาเล่นเป็นเพลงช้าแล้ว ก็สามารถทำให้เพลงเพลงนี้ออกมาเป็นในรูปแบบที่ซึ้งและมีความสวยงามได้เช่นกัน

หรือหากว่าเพลงพิธีการในช่วงตัดเค้ก เป็นเพลงที่สั้นมากๆ ซึ่งใน Concept ของช่วงนี้นั้นควรจะต้องเป็นเพลงที่มีความยาวพอสมควรเพราะโมเมนต์ในช่วงนี้น่าจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที​ ทางแก้ก็มีหลายทางเช่น​ เพิ่มจำนวนเพลงให้มากขึ้นหรือเพิ่มจำนวนรอบในการเล่นเพลงเพลงนี้ซึ่งทางวงดนตรีงานแต่งงานสามารถจัดการให้ได้อย่างแน่นอนเพียงแต่ถ้าหากว่าเป็นเพลงเดิมที่สั้นมากเกินไปจะทำให้เกิดความน่าเบื่อและไม่มีมูฟเม้นในด้านอารมณ์เกิดขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากการเล่นวนซ้ำหลายรอบให้มากขึ้นแล้ว ควรจะต้องมีการสแตนบายเพลงเผื่อเอาไว้ในยามที่เพลงเพลงนั้นวนซ้ำมากเกินไป

เพลงโยนดอกไม้

เพลงพิธีการในช่วงนี้นั้นควรจะต้องเป็นเพลงที่มีความสนุกสนาน เฮฮาหรือหลายๆครั้งเป็นเพลงที่ กระทบกระทั่งเพื่อนเจ้าสาวที่ยังโสดบ้างก็จะเป็นความสนุกสนานภายในงานเบาๆ ยกตัวอย่างเช่นเพลงเป็นโสดทำไม ซึ่งมีเนื้อหาสนุกสนานกระทบกระเทียบเบาๆ พอน่ารัก และในเมื่อมาเล่นในรูปแบบใหม่ ซึ่งมีสไตล์ดนตรีที่ใหม่มากขึ้นทำให้เพลงนี้เป็นที่ถูกใจเจ้าบ่าวเจ้าสาวในหลายๆ ครั้งมากๆ ครับ

แต่ในบางครั้งจะมีเจ้าสาวก็เลือกเพลงที่ Concept กระทบกระเทียบเพื่อนเจ้าสาวที่ยังโสด แต่เพลงนั้นกลับเป็นเพลงที่ช้าเช่น​ เพลงด่วนขบวนสุดท้าย ซึ่งพอขึ้นมาแล้ว สร้างความสนุกสนานให้กับแขกภายในงานได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเล่นนานมากเกินไปจะเกิดความ น่าเบื่อและไม่ตรงคอนเซ็ปกับช่วงเวลาพิธีการนั้นๆ จึงทำให้จะต้องตัดเป็นเพลงสนุกสนานโดยเร็ว

หรือถ้าหากเพลงที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเลือกมาเป็นเพลงช้า ถ้าหากไม่เปลี่ยนเพลงไปเลยก็ควรจะต้องนำเพลงช้ามาเล่นในจังหวะที่มีความคึกคักขึ้นมาบ้าง ไม่เนื่อยจนเกินไปจะทำให้โมเมนต์ในช่วงเวลาโยนดอกไม้นั้นขาดความสนุกสนานไป ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเพลงช่วงพิธีการในช่วงนี้เลยทีเดียว

การเลือกเพลงในช่วงพิธีการในแต่ละช่วงนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะสิ่งนี้เป็นเหมือนการสร้างมวลบรรยากาศภาพรวมภายในงาน และเป็นตัวสร้างความเชื่อมต่อในแต่ละช่วงไม่มี Dead Air ที่ทำให้บรรยากาศภายในงานเงียบ อีกทั้งยังสามารถควบคุมโทนอารมณ์ของแขกภายในงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งการเลือกเพลงพิธีการงานแต่งงานนั้นถือเป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่งที่ทางเจ้าบ่าวและเจ้าสาวหรือออแกไนท์ต่างควรให้ความสำคัญ แต่ถ้าหากใครที่ไม่มีความรู้ด้านดนตรีนั้นก็สามารถพูดคุยกับผู้ที่ชำนาญการหรือสามารถเข้ามาสอบถามได้กับผู้เชี่ยวชาญในเว็บไซต์ของเราได้เลยครับ